วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2550

การรักษาผิวหน้าให้ขาวใส

ปัจจุบันนี้ ผู้หญิงมักทำงานนอกบ้านกันมากขึ้น การเผชิญกับสภาวะแวดล้อมหลายอย่าง โดยเฉพาะแสงแดดจะส่งผลให้ใบหน้าหมองคล้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่โดนแสงแดดเลย ดังนั้นจึง ๆ แปลกที่ผลิตภัณฑ์รวมทั้งเครื่องสำอางยี่ห้อต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยให้หน้าขาวใส จึงถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ เพราะผู้หญิงขึ้นชื่อว่าเป็นเพศรักสวยรักงามที่สุดในโลก (คงไม่เถียงหมอนะคะ แต่การใช้เครื่องสำอางเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าใช้แล้วจะดีกับทุกคน บางครั้งอาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นกับผิวหน้าได้ ฉะนั้นหากคุณใช้ไปแล้วมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ใช้เครื่องสำอางไปนาน ๆ แล้วเกิดหน้าดำละก็... หยุดค่ะ ! หยุดใช้เครื่องสำอางตัวนั้นทันที แล้วรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษา หากมาล่าชาก็จะต้องใช้เวลารักษาหน้ากันนานกว่าจะสวยเหมือนเดิมนะคะ
วงการแพทย์ปัจจุบัน ก็ได้พยายามคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยี รวมทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาใช้ เพื่อทำให้ใบหน้าขาวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ได้ผลดี และปลอดภัย ดังนั้นเมื่อคุณมีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำควรรีบไปปรึกษากับแพทย์ผิวหนัง เพื่อทำการตรวจสภาพผิวหน้า และใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสม วิธีที่จะทำให้ผิวหน้าขาวใสมีด้วยกันหลายวิธีที่นิยมใช้กันได้แก่
1. การรักษาด้วยเครื่องไอออนโตโฟรีซีส ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ประจุไฟฟ้าเป็นตัวช่วยนำยาเข้าสู่ผิวหนัง โดยตัวยาที่ใช้เป็นกลุ่ม วิตามิน ซี เพื่อลดการสร้างเม็ดลี และบำรุงเซลล์ให้ดูสดใส
2. การรักษาด้วยเครื่องโฟโนโฟรีซีส เป็นเครื่องมือที่ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์กระตุ้นให้ตัวยาเข้าสู่ผิวหนัง โดยใช้ยาในกลุ่มวิตามิน ซี เช่นเดียวกัน
3. การรักษาด้วย AHA Treatment เป็นการใช้ AHA (กรดผลไม้) ทาผิวหน้า เพื่อทำให้เซลล์ที่หมองคล้ำของผิวหน้าในชั้นหนังกำพร้าส่วนบนหลุดลอกออกง่ายขึ้น พร้อมกับกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ที่สดใสขึ้น
4. การใช้ยาหรือเวชสำอาง เช่น ยากลุ่ม วิตามิน ซี กลุ่ม AHA หรือยาที่ช่วยลดรอยดำด่าง ๆ โดยในการรักษา หมออาจจะพิจารณาใช้หลาย ๆ วิธีร่วมกันในการรักษาผิวหน้าของคุณ และเพื่อให้ได้ผลดีและเร็วขึ้น หลังการรักษาไปแล้วคุณควรเอาใจใส่ในการดูแลผิวหน้าหน่อยนะคะ และควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้ผิวหน้าหมองคลาขึ้นอีก โดยควรปฏิบัติปกป้องถนอมผิวหน้าไว้ดังนี้ค่ะ (ห้ามลืมนะคะ)
1. ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดจัด ๆ เมื่อออกกลางแจ้งควรสวมหมวก หรือกางร่ม
2. ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่สามารถป้องกันรังลีทั้ง UVA และ UVB และควรพิจารณาเลือกครีมกันแดดที่มี SPF 15 ขึ้นไป หากต้องไปในที่แสงแดดจัด ๆ ก็ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงขึ้น
3. หากพบว่าเครื่องสำอางใดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยหมองคล้ำ หรือดำขึ้น ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นโดยเด็ดขาด และควรทดสอบเครื่องสำอางก่อนใช้กับใบหน้าทุกครั้ง
4. ควรพักผ่อนอย่างเพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพจิตที่ดี จะช่วยให้ใบหน้าสดใสอยู่เสมออย่างไรก็ตามปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้ามีหลายลักษณะด้วยกัน ดังนั้นเมื่อมีปัญหาเรื่องผิวหน้าหมองคล้ำ ควรไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้คำแนะนำและการรักษาที่ถูกต้องต่อไปส่วนเรื่องของค่ารักษาหรือการดูแลผิวจะแตกตางกันค่ะ ขึ้นอยู่ที่วิธีการของหมอที่จะทำการรักษาให้ รวมถึงชนิดของยาต่าง ๆ ที่ใช้ในการบำรุงผิว ขัดผิว หรือลอกผิว เพื่อให้ผิวหน้าขาวใสขึ้น และรวมถึงการใช้เครื่องมือบางชนิด เช่น เครื่องไอออนโต หรือเครื่องโฟโน ซึ่งราคาก็อาจจะแตกต่างขึ้นตามลำดับ แต่เพื่อผิวหน้าที่ขาวใส...หรือสำหรับใครบางคนของคุณ การรักษาผิวหน้าให้ขาวใสนวลเนียนน่าสัมผัสเป็นที่ต้องตาต้องใจแก่ผู้พบเห็น และคุณเองก็มีจิตใจร่าเริงเบิกบานเมื่อรู้ตัวว่า “เขาคนนั้น” ของคุณเพิ่มความรักเอาเอาใจคุณยิ่งกว่าเดิม คุ้มค่าแก่การรักษาผิวหน้าให้ขาวใสปิ๊ง...จริง ๆ ใช่ไหมคะ

ไม่มีความคิดเห็น: